PageRank (PR) เป็นอัลกอริทึมของ Google ที่จัดอันดับหน้าเว็บในผลการค้นหา โดยการประเมินจำนวนและคุณภาพของลิงก์ไปยังหน้าเว็บ ดำเนินการบนหลักการที่ว่าหน้าเว็บที่ได้รับลิงก์คุณภาพสูงมากขึ้นจะถือว่ามีความสำคัญมากกว่าและมีอันดับสูงกว่า
PageRank สร้างขึ้นโดยผู้ร่วมก่อตั้ง Google Sergey Brin และ Larry Page ในปี 1997 ตอนที่พวกเขาอยู่ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ทั้งนี้ในปัจจุบัน Google ยังคงใช้ PageRank เป็นหนึ่งในอัลกอริธึมที่ประกอบด้วย Experience Expertise Authoritativeness Trustworthiness (E-E-A-T)
นอกจากนี้ PageRank ยังเป็นสัญญาณของการกำหนดรูปแบบมาตรฐานอีกด้วย เพราะหน้าที่มี PageRank ที่สูงกว่ามีแนวโน้มที่จะได้รับเลือกให้ได้รับการจัดทำ index ที่เร็วกว่าและนำมาแสดงต่อผู้ใช้มากกว่า
ประวัติความเป็นมาของเพจแรงก์
PageRank ได้มีการจดสิทธิบัตรครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2541 โดยมีชื่อว่า “Method for node ranking in a linked database” สิทธิบัตรนี้หมดอายุเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2018 และไม่มีการต่ออายุ ซึ่ง Google เผยแพร่ PageRank สู่สาธารณะเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2543
PageRank เข้ามาใน Google Sitemaps (ปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ Google Search Console) เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2005 โดยแสดงอยู่ในหมวดหมู่สูง กลาง ต่ำ หรือ N/A คุณลักษณะนี้ถูกลบออกเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2552
ลิงก์สแปม
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีวิธีต่างๆ มากมายที่ SEO ใช้เป็นเสมือนกฎว่าสิ่งนี้ผิด ซึ่งกฎนี้ทำให้ Google มีการจัดอันดับที่ดีขึ้น กฎที่ว่า เช่น:
- การซื้อหรือขายลิงก์—การแลกเปลี่ยนลิงก์สำหรับสินค้า ผลิตภัณฑ์ หรือบริการ
- การแลกเปลี่ยนลิงก์มากเกินไป
- การใช้ซอฟต์แวร์เพื่อสร้างลิงก์อัตโนมัติ
- มีลิงก์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดในการให้บริการ สัญญา หรือข้อตกลงอื่นๆ
- โฆษณาแบบข้อความที่ไม่ใช้ nofollow
- บทความ โพสต์ หรือบล็อกที่มีลิงก์ Anchor Text
- ลิงก์ที่เต็มไปด้วย keyword ที่ถูกซ่อน แล้วถูกนำไปไว้บนเว็บไซต์อื่น
- ลิงก์ที่กระจายในส่วนท้ายหรือเทมเพลต
- ความคิดเห็นในฟอรัมพร้อมลิงก์ในโพสต์
Nofollow
เมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2548 Google ประกาศว่าได้ร่วมมือกับเครื่องมือค้นหาหลักอื่นๆ เพื่อแนะนำแอตทริบิวต์ rel=“nofollow” สนับสนุนให้ผู้ใช้เพิ่มแอตทริบิวต์ nofollow ลงในความคิดเห็นของบล็อก เพื่อช่วยต่อสู้กับสแปม
นี่เป็นข้อความที่ตัดตอนมาจากคำแถลงอย่างเป็นทางการของ Google เกี่ยวกับการแนะนำ nofollow:
หากคุณเป็นบล็อกเกอร์ (หรือผู้อ่านบล็อก) คุณคงคุ้นเคยกับผู้คนที่พยายามเพิ่มอันดับเครื่องมือค้นหาของเว็บไซต์ของตนเองโดยส่งความคิดเห็นในบล็อกที่มีลิงก์ เช่น “เยี่ยมชมเว็บไซต์ของฉัน” สิ่งนี้เรียกว่าสแปมและเรากำลังทดสอบระบบเพื่อที่จะบล็อกมัน จากนี้ไป เมื่อ Google เห็นแอตทริบิวต์ (rel=“nofollow”) บนไฮเปอร์ลิงก์ ลิงก์เหล่านั้นจะไม่ได้รับเครดิตใดๆ ในการจัดอันดับเว็บไซต์ในผลการค้นหาของเรา
Google ได้เพิ่มแอตทริบิวต์ลิงก์อีกสองสามรายการซึ่งเป็นเวอร์ชันที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นของแอตทริบิวต์ nofollow เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2019 ซึ่งรวมถึง rel=“ugc” ซึ่งมีไว้เพื่อระบุเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น และ rel=“sponsored” หมายเพื่อระบุลิงก์ที่ได้รับการชำระเงินหรือพันธมิตร
อัลกอริทึมที่กำหนดเป้าหมายเป็นลิงก์สแปม
เนื่องจากนัก SEO พบวิธีใหม่ๆ ในการทำลิงก์ Google จึงได้พัฒนาอัลกอริธึมใหม่เพื่อตรวจจับสแปมนี้ ชื่อว่า Penguin เปิดตัวเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2555 มันสร้างความเสียหายให้กับเว็บไซต์และเจ้าของเว็บไซต์จำนวนมาก แต่ Google ช่วยกู้คืนได้ในภายหลังในปีนั้นด้วยการเปิดตัว disavow tool ในวันที่ 16 ตุลาคม 2012
เมื่อ Penguin 4.0 เปิดตัวเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2016 ก็ได้นำการเปลี่ยนแปลงที่น่ายินดีมาสู่วิธีที่ Google จัดการกับลิงก์สแปม ด้วยการลดคุณค่าลิงก์สแปม ซึ่งหมายความว่าเว็บไซต์ส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือ disavow tool อีกต่อไป
นอกจากนี้ Google ยังเปิดตัวอัปเดตลิงก์สแปมครั้งแรกในวันที่ 26 กรกฎาคม 2021 ซึ่งได้รับการพัฒนาเมื่อเร็ว ๆ นี้ และยังได้ประกาศการใช้ระบบตรวจจับที่ใช้ AI เรียกว่า SpamBrain เพื่อลดคุณค่าของลิงก์ที่ผิดปกติด้วย
PageRank เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
PageRank เวอร์ชันดั้งเดิมไม่ได้ถูกใช้มาตั้งแต่ปี 2549 ตามที่อดีตพนักงานของ Google กล่าว พนักงานบอกว่าถูกแทนที่ด้วยอัลกอริธึมอื่นที่ใช้ทรัพยากรน้อยกว่า
ลิงค์บางลิงค์มีค่ามากกว่าลิงค์อื่น
แทนที่จะแบ่ง PageRank อย่างเท่าเทียมกันระหว่างลิงก์ทั้งหมดบนหน้า แต่ลิงก์บางลิงก์กลับมีมูลค่ามากกว่าลิงก์อื่นๆ จากโมเดลนักท่องเว็บแบบสุ่ม (ซึ่งผู้ใช้สามารถไปที่ลิงก์ใดก็ได้) ไปเป็นรูปแบบนักท่องเว็บที่สมเหตุสมผล (ซึ่งลิงก์บางลิงก์มีแนวโน้มที่จะถูกคลิกมากกว่าลิงก์อื่น ๆ จึงมีน้ำหนักมากกว่า)
ลิงก์บางลิงก์จะไม่ได้รับการให้ค่า
มีระบบที่ละเว้นคุณค่าของลิงก์บางลิงก์ เราได้พูดคุยไปแล้วบางส่วน เช่น:
- Nofollow, UGC และแอตทริบิวต์ที่ได้รับการสนับสนุน
- อัลกอริธึม Penguin ของ Google
- disavow tool
- การอัปเดตลิงก์สแปม
นอกจากนี้ Google จะไม่นับลิงก์ใดๆ บนหน้าเว็บที่ถูกบล็อกโดย robots.txt ซึ่งไม่สามารถรวบรวมข้อมูลหน้าเว็บเพื่อดูลิงก์ใดๆ ได้ แม้ว่าเพจแรงก์จะเปลี่ยนไป แต่เรารู้ดีว่า Google ยังคงใช้มันอยู่ เราอาจไม่ทราบรายละเอียดทั้งหมดหรือทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ยังเห็นผลกระทบของลิงก์ได้ง่าย